Wanhao Duplicator 9 เป็น 3D Printer เครื่องแรกที่คุ้มค่ามากที่สุด

หน้าตาของ 3D Printer แบบ XYZ (Cartesian) และ Delta(ที่มา: ResearchGate)
รายละเอียดเครื่อง Duplicator 9 จากผู้ผลิต
Primary attributes of the technology
Software
Extruder system
Material support
Max printable area
Filament diameter
Max printing speed
Case Material
With Insulate cover or not
Extruder Quantity
Accuracy
Net Weight(kg)
Gross Weight(kg)
Bed leveling
Packing size(cm)
Plateform Holder
Rail locking system
Layer Thickness
Plateform
Resume printing
LCD display
Power supply unit
PLA printer, entrance level printer Full assembled.
CURA, host by Repitator, Simplify 3D
MK10 extruder with full metal hot end
PLA, PVA, PEVA, PLA, Nylon, Any material melting<=300’C
300x300x400mm
1.75mm
70mm/s
Aluminum Case
Insulate Tent Available
1
X 0.012mm Y 0.012mm Z 0.004mm
20kg
22kg
4 Points leveling and Auto level function
60*50*35cm
Steel frame holder
Steel bolt locking frame
100 micron- 400 micron
Aluminum platform W/ heating,
Can resume printing after power break
English/Chinese/ customized any language
Inside 110 AND 250V(optional), 50/60Hz, 4.0A (input), and takes standard IEC cable
ภาพรวมของตัวเครื่อง

เปรียบเทียบหน้าตาของ T-Slot และ V-Slot (ที่มา: https://www.diy-india.com)





บริเวณฐานพิมพ์เปลี่ยนเป็นแผ่นแม่เหล็กแทนที่จะเป็นแผ่น Buildtak แล้ว โดยเมื่อแกะชิ้นงาน แค่ลอกแผ่นออกก้สามารถเอาชิ้นงานออกได้ ส่วนนี้น่าจะได้แบบอย่างมาจากของ BuildTak FlexPlate ส่วนใครจะทำเองก็ไม่ยากอะไร ใช้แผ่นแม่เหล็กตามร้านเครื่องเขียนได้เลย

สรุปฟีเจอร์เด่นอื่นๆ ในปี 2018 ทาง Wanhao ได้ปรับปรุงเครื่องเกือบทุกรุ่นให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน รวมถึง D9 ทำให้มีข้อแตกต่างจากคู่แข่งในท้องตลาด ได้แก่
♣ ระบบหัวฉีดเป็นโลหะไม่มีท่อเทฟลอนสีขาวแล้ว (all metal hotend)
♣ ระบบปรับฐานอัตโนมัติ โดยขณะรีวิวใช้ inductive sensor ในการวัดระนาบฐาน
♣ ระบบพิมพ์ต่อเมื่อไฟดับ
♣ ระบบฐานแม่เหล็กเพื่อช่วยในการแกะชิ้นงานหลังพิมพ์เสร็จ
แกะกล่องใช้งานครั้งแรก




สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าค่า Z-offset คืออะไร มาอ่านตรงนี้ได้เลยครับ โดยค่า offset คือค่าที่บอกระยะห่างระหว่างปลายหัวฉีด และเซนเซอร์วัดระยะ ในกรณีของ Duplicator 9 คือเจ้า Inductive sensor ที่ติดมากับเครื่องนี่เอง โดยปกติแล้วระยะ offset จากโรงงานแต่ละเครื่องจะไม่เท่ากัน เนื่องจากการประกอบ โดยอาจแตกต่างกันถึง 1-2 mm เลยก็ได้ แม้จะเป็นเครื่องรุ่นเดียวกัน ดังนั้นค่า Z offset จะเข้ามามีส่วนช่วยตรงจุดนี้
ยกตัวอย่างเช่น เครื่อง D9A Firmware S1 ตั้งค่าระยะห่างหัวกับเซ็นเซอร์วัดใน Firmware ไว้ 3 mm แต่ระยะห่างจริงๆ แค่ 2.9 mm (อยู่ชิดกันมากขึ้น) ดังนั้นเมื่อพิมพ์จริงแทนที่หัวพิมพ์จะอยู่ที่ตำแหน่ง Z=0 mm จะอยู่ที่ Z=0.1 mm แทน ทำให้ลอยจากฐานพิมพ์ หรือไม่ติดพื้นไปเลย
กรณีที่ 2 เครื่อง D9B Firmware S2 ตั้งค่าระยะห่างหัวกับเซ็นเซอร์วัดใน Firmware ไว้ 3 mm แต่ระยะห่างจริงห่างกัน 3.2 mm (เซ็นเซอร์อยู่สูงกว่าปกติ) ดังนั้นเมื่อพิมพ์จริงแทนที่หัวพิมพ์จะอยู่ที่ตำแหน่ง Z=0 mm จะอยู่ที่ Z= -0.2 mm แทน ซึ่งก็คือขูดฐานพิมพ์นั่นเอง จากทั้ง 2 กรณี จึงต้องมีค่า Z- Offset เข้ามาชดเชยในส่วนนี้ ซึ่งหลายๆเครื่องรุ่นใหม่จะมีฟังก์ชั่นนี้เข้ามาด้วยโดยอาจจะใช้ชื่ออื่นๆแทน

กลับมาที่ตัวเครื่องการใส่เส้นเข้าไปที่เมนู Ultility จากนั้น add filament ตัวเครื่องจะให้เลือกว่าจะใส่เส้นชนิดไหนซึ่งมีทั้ง PLA ABS หรือถ้าเป็นพวก PC Nylon ก็เลือกที่ other ซึ่งจะตั้งค่าไว้ที่ 260 องศาเซลเซียส รอจนอุณหภูมิถึงค่าที่เครื่องตั้งไว้แล้วจึงใส่เส้นที่ด้านบน รอจนเส้นออกที่หัวฉีด ซึ่งขั้นตอนนี้ถ้าใครถนัดก็สามารถดันเส้นออกที่หัวได้เลย ไม่ต้องรอเครื่องขับเส้นจนออกเอง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มาก

หลังจากใส่เส้น Filament สำหรับเครื่อง 3D Printer แล้ว ถัดมาก็คือการสร้างไฟล์ .gcode หรือภาษาที่ใช้ในการสั่งเครื่องให้ทำงาน โดยโปรแกรมที่มากับเครื่องจะเป็น Cura เวอร์ชั่น Wanhao 2.xx (ปัจจุบันเป็น Cura 3.x แล้ว) ซึ่งถึงแม้จะเก่าแต่โดยรวมก็ยังใช้งานได้ดี เนื่องจากเวอร์ชั่นใหม่ๆ เน้นเสริมการทำงานของเครื่อง Ultimaker รุ่นใหม่มากกว่า (Ultimaker เป็นคนสร้างโปรแกรม Cura)
หมายเหตุ: การตั้งค่า Cura ให้เหมาะกับเครื่อง Duplicator 9 ต้องทำด้วยตัวเองทั้งหมด ค่าเดิมที่มากับโปรแกรมไม่เหมาะสม

คุณภาพการพิมพ์











ความทนทานของเครื่อง


สรุป
