ประกาศจากกระทรวงพาณิชย์
ขอยกเนื้อหาสาระและมติของคณะกรรมการที่ออกไว้ตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 มาไว้ด้วย เพื่อใช้ในการอ้างอิง 3d printer import และขั้นตอนการดำนเนินงาน
เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราอาณาจักร พ.ศ. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
พณ. เสนอว่าตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติ (29 กรกฎาคม 2557) ได้มอบหมายให้ พณ. รับไปพิจารณาเพิ่มเติมถึงความจำเป็นเหมาะสมในการออกประกาศควบคุมการนำเข้าสินค้าประเภทเครื่องพิมพ์สามมิติ เพื่อป้องกันการนำมาใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมนั้น พณ. พิจารณาเห็นว่า เนื่องจากเครื่องพิมพ์สามมิติสามารถนำไปใช้ได้ทั้งทางบวกและทางลบ โดยในทางบวกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ วิศวกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในทางลบมีผู้นำไปผลิตวัตถุที่ผิดกฎหมายและวัตถุอันตราย เช่น อาวุธปืน ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสาธารณชน จากการนำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้ในทางที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย และเพื่อกำกับ ดูแล ติดตามปริมาณนำเข้าและป้องกันมิให้มีการนำเครื่องพิมพ์สามมิติไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมและขัดต่อกฎหมาย จนก่อให้เกิดปัญหาความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ สมควรกำหนดให้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
สาระสำคัญของร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
กำหนดคำนิยามของ “เครื่องพิมพ์สามมิติ” และกำหนดให้เครื่องพิมพ์สามมิติเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการเพื่อประโยชน์ในการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ดังนี้
1. ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้นำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติไว้กับกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานอื่นที่กรมการค้าต่างประเทศมอบหมาย
2. จดแจ้งการนำเข้าก่อนวันที่นำเข้าก่อนวันที่นำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติไว้กับกรมการค้าต่างประเทศหรือหน่วยงานอื่นที่กรมการค้าต่างประเทศมอบหมาย และนำแบบรับจดแจ้งไปแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
3. รายงานการนำเข้า การครอบครอง และการจำหน่ายจ่ายโอนเครื่องพิมพ์สามมิติต่อกรมการค้าต่างประเทศ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559
ขอบเขตการควบคุม
เครื่องพิมพ์สามมิติ (3D Printing Machine) เครื่องสร้างต้นแบบรวดเร็ว (Rapid Prototyping Machine) เครื่องแอดดิทิฟแมนูแฟคเจอริ่ง (Additive Manufacturing Machine) และให้หมายความรวมถึงเครื่องที่มีชื่อเรียกอย่างอื่นซึ่งมีคุณลักษณะในทำนองเดียวกันกับเครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องสร้างต้นแบบรวดเร็ว และเครื่องแอดดิทิฟแมนูแฟคเจอริ่ง ทั้งที่เป็นเครื่องครบชุดสมบูรณ์หรือมีลักษณะที่เป็นสาระสำคัญที่ทำให้เห็นได้ว่าเป็นเครื่องครบชุดสมบูรณ์ตามพิกัดอัตราศุลกากรประเภทย่อย 8477.10.39 และ 8479.89.39
ขั้นตอนการปฏิบัติ
- ลงทะเบียนเป็นผู้นำเข้า ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือนิติบุคคลที่กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ชั้น 4 เพื่อยื่นขอ “บัตรผู้นำเข้าก่อน“
- ลงทะเบียนต่อเนื่องเป็น “ผู้นำเข้าเครื่องพิมพ์สามมิติ” (คพ.1)
- ก่อนการนำเข้าล่วงหน้า 15 วัน ต้องไปยื่นเอกสารขอนำเข้า คพ2. ที่ ชั้น 10 กองบริหารการค้าสินค้าทั่วไป (คนละตึกกับที่ไปยื่นตอนแรก) ซึ่งจุดนี้ หากใครสั่งเครื่อง 3D Printer ที่ผู้จำหน่ายมีสต๊อกอยู่แล้ว และเลือกการจัดส่งเป็น fedex dhl ที่ใช้การจัดส่งไม่เกิน 2-3 วัน ต้องระวัง เนื่องจากกำลังกระทำการผิดข้อบังคับอยู่ จะโดนค่าปรับ 1500 บาท เนื่องจากไม่แจ้งล่วงหน้า รวมกับค่าธรรมเนียมจากผู้ขนสั่งที่ต้องแก้เอกสารอีก ดังนั้น จะเสียเงินเพิ่มไม่น้อยกว่า 2,000 บาท แน่นอน (บางครั้งจะมีการอนุโลม เนื่องจากทางกรมศุลกากรและกระทวงต่างประเทศ ทราบปัญหาและข้อจำกัดนี้แล้ว)
- หลังจากเครื่องเข้ามายังเมืองไทยแล้ว จะติดกรมศุลกากรแน่นอน เนื่องจากกล่องโชว์ชื่อสินค้าให้เห็นแบบไม่ต้องแกะตรวจ ทาง Shipping จะขอเอกสารนำเข้าเพื่อไปยื่นต่อกรมศุลกากรอีกที
- หลังจากทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็รออยู่ที่บ้านได้เลย ทาง Shipping ก็จะนำส่งตามปกติของการขนส่ง
- ทุกๆ 6 เดือน ต้องทำรายงานการครอบครองส่งต่อกรมการค้าต่างประเทศ
จะเห็นได้ว่า 3D Printer import ค่อนข้างมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก แต่พอทำไป 1-2 ครั้งก็จะคุ้นเคยไปเอง ซึ่งหากยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้ก็จะง่ายยิ่งขึ้น
การกรองข้อมูลในใบ คพ.2
ส่วนที่ 1 ข้อมูลผู้ขอแจ้ง

ส่วนที่ 2 รายละเอียดการนำเข้า

ส่วนที่ 2 รายละเอียดการนำเข้า

การชำระค่าปรับ
สำหรับใครที่นำเข้าโดยแจ้งล่วงหน้าไม่ถึง 15 วัน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ให้บริการนำเข้า จะให้กรอกเอกสาร “คำร้องขอให้เปรียบเทียบงดการฟ้องร้อง” เพื่อชำระค่าปรับตามอัตรา โดยไม่ต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย ในส่วนนี้สามารถปรึกษาเจ้าหน้าที่หรือผู้ให้บริการในการกรอกข้อมูลใหห้ถูกต้องได้ โดยเวลาดำเนินการจะใช้เวลา 3-5 วันทำงาน และต้องใช้เอกสารจริง ดังนั้นจะได้ของล่าช้าไปอีกประมาณ 1 อาทิตย์
