ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์ล้ำหน้า และทันสมัยตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปแล้ว การรักษาโรคหัวใจได้กลับมาเป็นที่สนใจมากขึ้นนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาการสร้างหัวใจเทียมรวมถึงการใช้หุ่นยนต์และการพิมพ์ 3 มิติ เรียกได้ว่าไปไกลมากเลยทีเดียว โดยทีมนักวิจัยสามารถสร้างหัวใจเทียม ด้วยเทคโนโลยี 3D Printing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในปัจจุบันได้มีการตีพิมพ์ลงในวารสาร Advanced Science พิมพ์หัวใจขนาด 2.5 เซนติเมตร ขนาดเล็กเท่ากับหัวใจของกระต่าย แต่มีโครงสร้างของหัวใจที่ใกล้เคียงของหัวใจจริงๆทั้งหมด ซึ่งพิมพ์ขึ้นมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ
การสร้างอวัยวะขึ้นมาทดแทนด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะค่อยๆบรรจงถักทอขึ้นมาทีละชั้นๆ ด้วยความละเอียด 10-50 ไมโครเมตร จากวัสดุต่างๆ อย่างเช่น
♥ ใช้หมึกชีวภาพที่มาจากเนื้อเยื่อของคนไข้โดยตรง ซึ่งช่วยลดปัญหาการเข้ากันไม่ได้ของอวัยวะที่ปลูกถ่ายในคนไข้ และร่นเวลาที่คนไข้ต้องรอในการปลูกถ่ายหัวใจในอนาคต
♥ ใช้ไฮโดรเจลและสีผสมอาหาร ในการการสร้างอวัยวะที่ประกอบไปด้วยโครงข่ายหลอดเลือดและระบบท่อที่ซับซ้อน
♥ ใช้วัสดุแบบซิลิโคน แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนก้อนซิลิโคนรูปหัวใจธรรมดา แต่สามารถเต้นและสูบฉีดสเมือนหัวใจของมนุษย์จริงๆ
งานวิจัยเหล่านี้จะนำไปสู่การออกแบบและวิศวกรรมเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยหลอดเลือด มีความสเมือนอวัยวะจริงๆ รวมทั้งโครงสร้างที่เป็นท่ออันสลับซับซ้อนของร่างกายได้ และโครงข่ายเล็กมากๆ ในรูปแบบต่างๆ อย่างง่ายดาย
การพิมพ์แบบ 3 มิติ จะสร้างประโยชน์ให้เกิดกับผู้ป่วยคือ สามารถทดแทนหรือใช้ซ่อมแซมชิ้นส่วนของหัวใจที่เป็นโรคหรือเสียหายได้
ผู้ป่วยบางคนต้องได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะซึ่ผู้บริจาคมีไม่มาก และไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วย ทั้งยังต้องทดสอบความเข้ากันของเนื้อเยื่อ และผู้ป่วยต้องรับยากดภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิต ทำให้แต่ละปีมีผู้ป่วยจำนวนไม่มากนักที่ปลูกถ่ายอวัยวะสำเร็จ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ป่วยที่รออยู่
แม้จะมีการพัฒนาการรักษาให้มีประสิทธิภาพ และลดระยะเวลาในการรักษา ค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามเราควรรักษาร่างกายให้แข็งแรง และดูแลอวัยวะอย่างเราให้ทำงานได้เป็นปกติ น่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด