การพิมพ์อาหาร 3 มิติใช้หลักการทำงานระบบ FDM ทำขนมหรืออาหารเป็นรูปร่างได้ตามต้องการ โดยเทคโนโลยี Food 3D Printer จะใช้พื้นที่ในการประกอบอาหาร หรือทำขนมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น และควันในระหว่างการเข้าครัว ความน่าสนใจที่แตกต่างจากการกระบวนการแบบเดิมๆ คือเรื่องของความอิสระในการแบบ ไร้ข้อจำกัดทางจินตนาการ
เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสามารถเปลี่ยนอาหารและขนมแบบเดิมๆ ให้เป็นอาหารที่กินได้ทั้งจาน รวมถึงภาชนะที่ใส่อาหารและขนมนั้นด้วย การพิมพ์อาหาร 3 มิติสามารถทำอาหารจากวัสดุธรรมชาติ และส่วนประกอบที่แตกต่างกันได้ ในอดีตอาจคงเป็นแนวคิดนิยายวิทยาศาสตร์มากกว่าที่จะทำได้จริง แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นความจริงแล้ว มาดูกันว่ามีอาหารและขนมอะไรกันบ้าง
1. Chocolate
ในอดีตการพิมพ์ช็อกโกแลตในแบบ 3 มิติ เครื่อง 3D Printer ส่วนมากนั้นสามารถพิมพ์ช็อคโกแลตได้เพียงแค่รูปร่าง 2 มิติง่ายๆ แต่ปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ จนวันนี้สามารถพิมพ์ขึ้นรูปเป็นหน้าคน โมเดลตัวเองทั้งตัว หรือโครงถัก ทำให้ได้รับความสนใจเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นความสำเร็จของผู้ผลิตอีกหลายรายที่สามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามที่ผู้ใช้งาน หรือผู้บริโภคต้องการได้เพิ่มขึ้น และยังคงใช้หลักการพิมพ์แบบเดิม คือใช้ระบบ FDM (Fused Deposition Modeling) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของผู้ใช้ 3D Printer ทำขั้นตอนการทำงานที่ไม่ซับซ้อน เพียงแค่เราใส่ช็อคโกแลตผ่านหัวฉีดที่มีความร้อน จากนั้นก็จะฉีดช็อคโกแลตผ่านหัวฉีด ซึ่งมีลักษณะคล้ายหลอดฉีดยา (syringe) ที่สามารถถอดออกและทำความสะอาดได้ง่าย หัวที่ถอดออกได้นี้จะช่วยให้เราสามารถผสมช็อคโกแลตที่มีรสชาติ สี หรือกลิ่นที่แตกต่างกันได้
2. Pizza
ในที่สุดการพิมพ์ 3 มิติก็เริ่มเข้าสู่ธุรกิจอาหารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการทำพิซซ่า (pizza) จากเครื่อง Food 3D Printer แน่นอนว่ารับประทานได้จริงๆ เพราะใช้แป้งทำพิซซ่าที่มีความข้นเหลวระดับหนึ่ง เพื่อให้ขึ้นรูปฐานของพิซซ่าได้ นำแป้งใส่ในท่อหรือหลอดที่คล้ายหลอดฉีดยา จากนั้นก็แป้งก็จะถูกฉีดออกมาทีละชั้น ส่วนหลอดอื่นๆ จะใส่ซอสที่เราผสมไว้เพื่อทำหน้าพิซซ่า และฉีดออกมาจนเต็มพื้นที่ตามหน้าตาที่เราสร้างมาจาก 3D Model จนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่าการพัฒนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติสามารถเข้าถึงชีวิตประวันของเราได้ง่ายๆ ตัวอย่างเช่นพิซซ่าที่พิมพ์ 3 มิติจะต้องนำไปอบต่อให้สุก ซึ่งก็เป็นขั้นตอนเดิมของการทำพิซซ่าอยู่แล้ว ต่อไปเราอาจได้รับประทานพิซซ่าหน้าตัวเอง เพิ่มความสนุก ความสุข และรอยยิ้มขณะรับประทานมื้อนี้
3. Pastas
เครื่องพิมพ์ 3D ทำพาสต้า (pastas) ได้อย่างไม่น่าเชื่อให้กับหลายแบรนด์ดัง อย่างงเช่น Barilla โดยในในปี 2015 LUNE เป็นผู้ชนะการประกวดของ Barilla เพื่อค้นหาพาสต้ารูปทรงใหม่โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติได้รับการนำเสนออย่างเป็นทางการจากแบรนด์อิตาเลียนที่งาน EXPO เมืองมิลาน (BARILLA – 3d pasta presented at Expo 2015) ได้แรงบันดาลใจการออกแบบจากดาวเทียม และดวงจันทร์ ซึ่งทาง LUNE จะเปิดอาณาจักรแห่งความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการปรุงอาหารของทุกวันในแบบเดิมๆ รูปลักษณ์ของพาสต้ามีลักษณะเป็นหลุมที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางต่างกันในรูปทรงกลมแต่ละหลุม หรืออุกกาบาตของดวงจันทร์ ซึ่งผ่านการขึ้นรูปคล้ายกับพิซซ่า แต่ต่างกันที่พาสต้าจะนำไปอบแห้ง เวลาจะใช้ก็นำมาลวกให้สุก จากนั้นจะใส่ซอส และเครื่องปรุงรสอาหารตามความชอบ ผัดจนกระทั่งพาสต้าเข้ากันดี เป็นวิธีที่ง่ายและทำให้จะสนุกกับการทำอาหาร
4. Coffee
5. Pancake
เครื่องพิมพ์แพนเค้ก 3 มิตินี้สามารถทำเป็นอาหารเช้าได้อย่างแท้จริง เพียงผสมแป้งแพนเค้ก แล้วเทลงในท่อที่มีลักษณะคล้ายหลอดฉีดยา แพนเค้กที่ได้ออกมาจะมีรูปร่างเป็น 2 มิติ ด้วยความสะดวกในการพิมพ์แพนเค้ก และเป็นเครื่องพิมพ์สำหรับวาดแพนเค้กที่ออกแบบเป็นลวดลายละเอียดได้อย่างไร้ข้อจำกัด เพื่อส่งเสริมให้เด็กๆ มีจินตนาการ แรงบันดาลใจในการสร้าง และสนุกสนานไปกับอาหารของเขา นอกจากนี้หากนำเทคโนโลยี 3D printing มาต่อยอดกิจการ หรือธุรกิจ อย่างเช่น ร้านคาเฟ่ที่เอา Food 3D Printer มาใช้ในการทำขนมแพนเค้ก และลูกค้าสามารถออกแบบหน้าตาแพนเค้กได้เอง หรือจะใช้หน้าตัวเองก็ได้ ไม่เกินสิบนาทีก็ได้รับประทานแพนเค้กหน้าตาเราเอง สามารถเพิ่มรสชาติให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วย topping ได้ ถือว่าเป็นแพนเค้กชิ้นเดียวในโลกไม่ซ้ำใคร
6. Sugar and Candy
3d printng เป็นเทคโนโลยีที่เรียกได้ว่าสามารถเข้าถึงได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ปัจจุบันการพิมพ์ 3 มิติมาไกลจนสามารถพิมพ์ลูกอมและขนมหวานได้สวยงาม และน่ารับประทานมากๆ นอกจากนี้้ยังสามารถทำเงิน สร้างรายได้ให้กับ Dylan Lauren และ Melissa Snover ด้วยการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3 มิติ โดยให้ลูกค้าได้มาใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบลูกอมที่แตกต่างกัน และเป็นของตัวเองที่มีหนึ่งเดียวในโลกไปเลย ซึ่งทาง The Magic Candy Factory ทำลูกอมให้ออกมาเป็นรูปร่างต่างๆ ตามที่ลูกค้าได้เลือกไว้ ผ่านการสั่งงานจาก iPad โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นเราสามารถทำหน้าลูกอมหน้าตัวเองได้แล้ว โดยการนำ สแกนเนอร์ 3 มิติ มาใช้ในการสแกนใบหน้าคน และใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติผลิตออกมาเป็นลูกอมรสชาติต่างๆ ตามที่เลือกไว้ ขั้นตอนแรกเริ่มจากนำสแกนเนอร์ 3 มิติมาสแกนใบหน้า และนำไฟล์ที่ได้ไปเข้าเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อให้พิมพ์แบบออกมา และนำชิ้นงานที่ได้ไปทำเป็นแบบแม่พิมพ์เพื่อใช้ผลิตลูกอม โดยลูกค้าสามารถเลือกรสชาติของลูกอมได้ถึง 6 รสชาติ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็ชื่นชอบและหลงใหลในรสชาติหวานๆของมัน เป็นหนึ่งในขนมสุดโปรดปรานที่ได้รับความนิยมมาตลอดกาลเลยก็ว่าได้ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ต้องการให้ลูกค้าได้ทานลูกอมที่ไม่เหมือนใคร หรือนำไปใอบเป็นของขวัญที่ไม่ซ้ำใคร ดังนั้นเครื่องพิมพ์ 3 มิติได้เข้ามาช่วยในการผลิตชิ้นงาน ซึ่งทำให้ใช้เวลาน้อยลงและสามารถผลิตซ้ำได้อย่างไม่จำกัด ที่สำคัญที่สุดเทคโนโลยีได้ช่วยสร้างจินตนาการให้กับผู้คนโดยไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแท้จริง
7. Meat
ใช้ 3D Food Printing ทำขนมไทย
หลักการทำงานง่ายๆ ของเครื่องพิมพ์อาหาร 3 มิติ คือ การใส่ส่วนผสม วัตถุดิบ และเครื่องปรุงต่างๆ ตามสูตรอาหารหรือขนม ซึ่งถูกแปรสภาพให้อยู่ในรูปของเหลวหรือกึ่งของเหลวเท่านั้น จากนั้นก็เทส่วนผสมลงไปในแคปซูลหรือกระบอกฉีด หลังจากนั้นกระบอกฉีดของเครื่องพิมพ์จะค่อยๆ ฉีดส่วนผสมในการปรุงอาหารหรือขนมขึ้นมาทีละชั้น ทีละแถว ซ้อนกันเป็นรูปทรงต่างๆ ตามขั้นตอนของการทำอาหาร
ด้วยหลักการการของ 3D Food Printing กับส่วนผสมที่ใช้ที่ต้องเป็นของกึ่งของเหลว ขนมไทยที่มีลักษณะนี้ เช่น ขนมชั้น หน้าตะโก้ หน้าสาคูเปียก เป็นต้น หากประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ สามารถเนรมิตหน้าเราเองลงบนหน้าขนมไทยเหล่านี้ให้ออกมาเป็นขนมที่มีหน้าตาไม่เหมือนใครได้อย่างง่ายดายและประหยัดเวลา
3D Printer Food
การทำอาหารหรือขนมจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติสามารถสร้างรูปทรงที่ซับซ้อนมากๆ ได้อย่างง่ายดาย เป็นข้อได้เปรียบและเป็นจุดเด่นของเทคโนโลยีนี้ ซึ่งการทำอาหารโดยทั่วไปแล้วจะใช้ฝีมือมนุษย์ในการประกอบอาหาร สิ่งที่เหมือนกัน คือ การเตรียมวัตถุดิบสำหรับใช้งานปรุงอาหาร หรือทำขนม อย่างไรก็ตามนวัตกรรมได้พัฒนาให้ทันสมัย และสะดวกสบายต่อการใช้งานเพิ่มขึ้น และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่นำเสนอโดยผู้ผลิตหลายราย เช่น
- Wiiboox Sweetin Food
- 3D Systems’ ChefJet
- Nautral Machines
- Foodini
- BeeHex’s Chef3D
บริษัทเหล่านี้เป็นผู้พัฒนาและผลิตเครื่องพิมพ์อาหารและขนม 3 มิติที่สามารถทำช็อคโกแลต พาสต้า น้ำตาล และอาหารอื่น ๆ ออกมาสู่ตลาดในเชิงพาณิชย์ได้สำเร็จ