แนะนำแบรนด์ Phrozen

- ก่อตั้งในปี 2013 ด้วยการรวมกลุ่มของวิศวกร พัฒนาเครื่อง DLP และ LCD 3D Printer
- โดยในช่วงแรก 2016 เป็นการพัฒนาเครื่อง DLP ในชื่อ Phrozen One และเปิดตัวใน Kickstarter 2018 ด้วยรุ่น Phrozen Make และ Make XL ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี LCD 3D Printer ที่มีราคาถูกจนคนทั่วไปจับต้องได้ และต้นฉบับ LED Array ทำให้ความเข้มแสงสม่ำเสมอทั้งหน้าจอ ซึ่งในสมัยนั้นยังใช้กรวยโลหะสะท้อนแสงกัน ไม่มีเลนส์ใดๆทั้งสิ้น ทำให้ขอบข้างๆ แสงต่ำกว่าตรงกลาง ปริ้นได้ไม่เต็มพื้นที่
- หลังจากนั้นเทคโนโลยี LCD จึงเป็นผลิตภัณฑ์หลักของ Phrozen มาโดยตลอด จนปัจจุบัน (2023) เป็นเทคโนโลยีจอแบบ Monochrome ความละเอียดสูงถึง 8K ซึ่งมีครบทุก Segment ทั้งเล็ก (Mini 8K) กลาง (Mighty 8K) และใหญ่ (Mega 8K)
- ในอนาคตการพัฒนาคาดว่าจะไปในแนวที่ความละเอียดไม่ได้ก้าวกระโดดมากกว่าปัจจุบัน แต่ไปเน้นอัตราเร็วในการผลิตที่ดีขึ้น ด้วยเทคโนโลยีใหม่
เครื่องกลุ่มจอ Monochome ยุคแรก (ไม่มีการวางจำหน่ายแล้ว)
- Phrozen เป็นแบรนด์แรกที่เอาเทคโนโลยีจอ Monochrome มาใช้งาน โดยรุ่นแรกคือ Phrozen Sonic และมีตัวที่ราคาย่อมเยา ลดต้นทุนส่วนอื่นตามมาอย่าง Sonic Mini ที่เป็นตัวเริ่มต้นของ
- สเปคเริ่มต้นยุคนั้นจะเป็นจอ Mono ความละเอียด Full HD ดังนั้นจะมี XY Resolution อยู่ที่ประมาณ 62-63 ไมครอน ขนาดหน้าจอ 5 นิ้วโดยประมาณ
เครื่องกลุ่มความละเอียด 4K
ความละเอียดในกลุ่มนี้ จัดว่าเป็นเครื่องเริ่มต้นในปัจจุบันแล้ว เป็นจอ Monochrome ทั้งหมด ราคาอยู่ในช่วงย่อมเยา เหมาะกับคนที่กำลังเริ่มต้นเทคโนโลยีเรซิน โดยเน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก
- Mini 4K จอขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 35 ไมครอน พื้นที่การพิมพ์ 13.4×7.5×13 cm
- Mighty 4K จอขนาด 9.3 นิ้ว ความละเอียด 52 ไมครอน พื้นที่การพิมพ์ 20×12.5×22 cm
- Transform 4K จอขนาด 13.3 นิ้ว ความละเอียด 76 ไมครอน พื้นที่การพิมพ์ 29.2×16.5×40 cm
เครื่องกลุ่มความละเอียด 8K
- ปี 2021 ไตรมาส 2 ปีมีการเปิดตัว Mega 8K ซึ่งเป็นครั้งแรกในโลกที่ใช้จอความละเอียดเป็น 8K แถมมีราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งทั้งหมด ทั้งๆ ที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังอยู่ที่ความละเอียด 4K อยู่ ดังนั้นจึงเป็นรุ่นที่มียอดขายดีมาก
- หลังจากนั้นช่วงปลายปี เปิดตัว Mini 8K ตามมา ซึ่งทำความละเอียดได้ถึง xy 22 ไมครอน เรียกว่ารายละเอียดใกล้เคียงกับหลายๆเครื่องที่แพงกว่าหลายดท่าได้เลย ซึ่งเป็นเครื่องที่ขายดีในวงการจิวเวลรีและทันตกรรม ที่ต้องการความละเอียด และความแม่นยำของชิ้นงาน
- จากนั้นต้นปี 2022 เปิดตัว Mighty 8K ขนาดกลาง เป็นรุ่นสุดท้าย
- ขนาดเรียงตามพื้นที่พิมพ์จะเป็น Mini 8K < Mighty 8K < Mega 8K ซึ่งเหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม
- งานจิวเวลรี โมเดลขนาดจิ๋ว 2-3 cm เหมาะกับ Mini 8K
- งานโมเดล ต้นแบบทั่วไป รวมถึงทันตกรรม เหมาะกับ Mighty 8K
- งานโมเดลขนาดใหญ่ งานโมเดลทางวิศวกรรม เหมาะกับ Mega 8K

เครื่องกลุ่มทันตกรรม
- หลังจากปี 2022 Phrozen ได้แบ่งตลาดทันตกรรมแยกจากตัวเครื่องกลุ่ม Consumer ชัดเจน มีเวบไซต์ตัวเครื่องและวัสดุเฉพาะตัว Phrozen Dental
- ลักษณะภายนอกดูแล้วรู้ได้เลยว่าเป็นรุ่นเฉพาะทางด้วยตัวเครื่องสีขาว โครงสร้างโลหะทั้งหมด บอร์ดควบคุมไม่ใช่ Chitubox แบบกลุ่ม Desktop ชิ้นส่วนภายในเกรดดีขึ้น
- สำหรับเครื่องกลุ่มทันตกรรมจะมีตัวควบคุมความร้อนเรซินให้คงที่ตลอดเวลา พร้อมซอฟแวร์ DS Slicer ที่มีโปรไฟล์เรซินทันตกรรมทั้งของ ตัวแบรนด์เอง และของ 3rd Party ซึ่งอัพเดดอยู่เสมอ
- ราคาจะถูกกว่าเครื่อง Dental 3D Printer แบรนด์อื่นๆ แต่ยังคงคุณภาพการพิมพ์มาตรฐานทันตกรรม


- จะมีอยู่ด้วยกัน 2 รุ่นคือ Sonic และ Sonic XL ต่างกันที่ขนาดพื้นที่การพิมพ์เป็นจอ 6 นิ้ว และจอ 9.3 นิ้ว ซึ่งถ้างานทันตกรรมโมเดลทั่วไป แนะนำเป็นตัว XL แต่ถ้าปริ้นพวกฟันปลอม เรซินหล่อโลหะ หรืองานจำนวนไม่มากตัว Sonic จะเหมาะสมกว่า