เริ่มต้น Elegoo Saturn ยุค 8K
- ตั้งแต่มีข่าวภาพหลุดของ Saturn 2 เมื่อปลายปี 2021 หลายคนเลยคิดว่าน่าจะเป็นเครื่องและยี่ห้อแรกของโลกที่วางจำหน่าย แต่กลายเป็น Phrozen Mighty 8K ที่ออกมาก่อนแทน ซึ่งมีสเปคทีใกล้เคียงกันมาก อย่างไรก็ตามด้วยราคาของ Saturn 2 ที่เรียกได้ว่าเปิดตัวมาใกล้เคียงกับตัวเดิม แถมคนที่สั่งจองไม่ต้องรอของนาน ประมาณ 1-2 เดือน ก็ได้รับแล้ว ทำให้ Elegoo ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับคืนมา หลังจากการส่งมอบที่ล่าช้าไปหลายเดือนของ Elegoo Jupiter
- จากนั้นไม่นาน Elegoo ก็เซอร์ไพรส์อีกครั้ง จากการดูข้อมูลของ Chitubox Version ใหม่ ช่วงเดือนกันยายน พบว่ามีเจ้าตัว Saturn 8K โผล่เข้ามาด้วย และพร้อมวางจำหน่ายในทันที ซึ่งกว่าจะเข้าไทยก็กลางเดือนตุลาคมแล้ว จึงได้จับคู่นี้มารีวิวเทียบข้อดี ข้อเสีย คุณภาพงานกัน
- Elegoo Saturn 2 ราคาขายจะอยู่ที่ 33,900 บาท ส่วน Elegoo Saturn 8K จะอยู่ที่ 24,900 บาท
- จากตัวสเปคเรียกได้ว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ แทบจะเหมือนกันทั้งหมด ต่างกันแค่พื้นที่ปริ้นด้านความสูง และระบบฉายแสงเท่านั้น
- ดังนั้นใครที่กำลังเลือกหาเครื่องเริ่มต้น ตัวโมเดลเดิม Saturn 8K ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
- ส่วนใครที่ยังลังเล อ่านบทความรีวิวนี้ต่อไปครับ
เจาะลึกในส่วนที่แตกต่างของ Elegoo Saturn 2 และ Saturn 8K
1.โครงสร้างการดีไซน์ตัวเครื่อง
- จากสเปค และภาพเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้วว่าตัว Elegoo Saturn 2 มีขนาดโดยรวมที่ใหญ่กว่า Saturn 8K แต่ก็ไม่ได้ต่างกันจนคนที่เคยใช้รุ่นเดิม ต้องหาที่วางใหม่ เรียกว่าแทนที่เดิมได้เลย ส่วนที่ชัดน่าจะเป็นเรื่องความสูงมากกว่า
- กีดีไซน์ เวอร์ชั่น 2 จะดูโฉบเฉี่ยว ที่เส้นแสง รอยตัด โค้งเว้า มากกว่าวำหรับคนคุ้นกับ Elegoo นี่ก็คือการดีไซน์จากตัว Mars 3 ครับ เอามาขยายใหญ่ขึ้น
- ฐานพิมพ์มีขนาดส่วนที่เป็นพื้นที่พิมพ์ใกล้เคียงกัน ส่วนที่ต่างคือ Saturn 2 บริเวณที่ยึดกับแกนมีขนาดใหญ่ และแข็งแรงกว่ามาก ดูได้จากขนาดของน๊อตที่ไว้ใช้ล๊อกยึดกับแกน ต่างกันเป็นเท่าตัว
- ถาดเรซิน (Resin Tank) มีดีไซน์ต่างกันเล็กน้อย แต่ไม่สามารถใช้แทนกันได้ เนื่องจากรูวางเข้าตัวเครื่องไม่ตรงกัน
- ในส่วนของแกน Z หรือแกนแนวตั้งนั้น เรียกได้ว่าถอดแบบมากันมาเลย ทั้งตัวสกรูและตัวรางเลื่อน ส่วนที่ต่างคือโครงสร้างที่มารองรับตัว Saturn 2 จะแน่นหนา แข็งแรงกว่า ส่วนบนมีลูกปืนประคองได้ศูนย์ดีกว่า ซึ่งงานสูงๆ เล็ก แรงที่เกิดขึ้นขณะดึงชิ้นงาน ทำได้ดีกว่ารุ่นเดิม
- ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากพื้นที่การิมพ์ด้านแนวสูงซึ่ง Saturn 8K อยู่ที่ 210mm ขณะที่ Saturn 2 อยู่ที่ 250 mm เลยต้องออกแบบมาให้แข็งแรงกว่า
- ตัวจอ LCD นั้นเป็นรุ่นเดียวกัน ดังนั้นเรื่องความละเอียดจึงเท่ากันที่ 28.5 ไมครอน XY
- สังเกตได้ว่าตัว Saturn 8K นั้น ไม่ได้ออกแบบเผื่อขนาดจอ 10 นิ้วไว้ ดังนั้นรูประคองถาดเรซินจึงกินพื้นที่เืปกาวที่ปิดจอ ขณะที่ Saturn 2 ยังมีพื้นที่เหลือเล็กน้อย
- ส่วนของการ service หรือการซ่อมบำรุง ทาง Saturn 2 ทำมาได้ดีมาก คือขันน๊อตด้านหลังจะเห็นบอร์ดควบคุมทั้งหมด จะถอดสายไฟ หรือขยับสายแพร เปลี่ยนจอ เช็คส่วนต่างๆ ทำได้ง่ายกว่ามาก
- ขณะที่ Sarurn 8K ต้องเปิดข้างๆ ทำงานได้ค่อนข้างยาก
2. ระบบฉายแสง
- Saturn 8K เป็น Array LED ประกอบด้วยเม็ด LED วางเรียงกัน พร้อมเลสน์ช่วยกระจายแสง (ต้นฉบับคือ Phrozen Make เมื่อ 5 ปีที่แล้ว) ส่วนของ Saturn 2 จะเป็น COB LED อยู่ตรงกลาง พร้อมเลนส์ขนาดใหญ่ (ไปดูของ Mars 3 ได้) บริเวณก่อนถึงตัวหน้าจอมีมีแผ่นกระจกฝ้าช่วยกระจายแสงให้สม่ำเสมออีกที
- ในส่วนของ Saturn 2 ถ้าจะแกะออกมาดูตัว COB ต้องรื้อแล้วจะทั้งเครื่อง เพราะมีกรวยสีดำครอบไม่ให้แสงหลุดลอดมาเลย
- ตอนนี้หลายยี่ห้อมาใช้แบบ COB แล้ว เนื่องจากคุมแสงได้ดี ซ่อมบำรุงง่าย และมีพื้นที่วางระบบระบายความร้อนได้ดีกว่า
- ปัญหา LED ดับ 1 ดวง 2 ดวง แล้วต้องเปลี่ยน ต้องเลี่ยงในจุดนั้นก็หมดไป เหลือแค่เสีย แล้วเปลี่ยนไปเลย โดยราคาประหยัดกว่า 50%
- ภาพตรวจสอบความสม่ำเสมอของแสง อาจจะดูยากหากถ่ายเป็นภาพ แต่ถ้าดูแสงที่ออกมาจริง จะเห็นว่าตัว Saturn 8K จะมีริ้วดำบางส่วน ไม่สม่ำเสมอเหมือน Saturn 2
3. อื่นๆ
- วัสดุในการผลิตตัว Saturn 8K ที่ใช้โมเดลแบบเดิมจะเป็นโลหะเกือบทั้งหมดหนักราวๆ 14kg (ข้อมูลจากผู้ผลิตที่บอก 11 กิโลกรัม ไม่ถูกต้อง) ขณะที่ Saturn 2 กรอบภายนอกเป็นพลาสติกผสมเส้นใยแก้วเพิ่มความแข็งแรง น้ำหนักจะอยู่ที่ 11 กิโลกรัม
- จอของทั้ง 2 รุ่น เป็นจอแบบเดิยวกัน ที่สำคัญลอตผลิตสายแพรเดียวกันด้วย
- ตำแหน่งที่ติดตั้งระบบดูดกลิ่นแบบเดียวกัน ตำแหน่งเดียวกัน
- ด้านหลังฝาครอบมีการเจาะช่องฝั่งน๊อตสำหรับยึดพัดลม หรืออุปกรณ์อื่นเหมือนกัน
- สำหรับคนที่สงสัยว่า Saturn 2 มีพัดลมระบายความร้อนมั้ย จะมีติดตั้งไว้ 2 ตัว บริเวณซิ้งที่ยึดอยู่กับ COB LED ครับ เพราะเป็นจุด Heat Spot เดียวในตัวเครื่อง
- สำหรับ Saturn 2 การเปลี่ยนพวกหลอด COB ทำง่ายมาก ถอดสายไฟที่ติดกับเมนบอร์ดออก จากนั้นดูที่ด้านล่างของเครื่องจะมีชุดยึดเฉพาะสามารถถอดออกมาได้เลย
ผลงานพิมพ์เปรียบเทียบระหว่าง Elegoo Saturn 2 และ Saturn 8K
1. หาเวลาฉายแสงที่เหมาะสม
- ก่อนที่จะเริ่มปริ้น เริ่มจากการเช็คเวลาฉายแสงเปรียบเทียบกันระหว่าง 2 เครื่องนี้ วัสดุที่ใช้เป็น Phrozen Aqua Grey 8K 1 ในเรซินที่ปริ้นง่ายที่สุด คมชัด เหนียว ล้างง่าย โดยไม่ต้องวิเคราะห์เชิงตัวเลจ หรือวัดแสงใดๆ
- เวลาทดสอบ 1.7-2.5 วินาที ที่ 50 ไมครอน
- ผลทดสอบความเข้มของแสงจาก Saturn 8K มากกว่า Saturn 2 อยู่ ระดับหนึ่ง โดยที่เวลาฉายแสงน้อยที่สุด (1.7 วินาที) งานจาก Saturn 8K ยังดูบวม รายละเอียดไม่ชัดเท่าของ Saturn 2 แสดงว่าความเข้มของแสงมากกว่า
- เลยนำมาสู่การทดสอบแบบ Extreme ที่ 2
2. RP Test
- โดยใช้ 3D Model ทดสอบจากทาง Phrozen หรือที่เรียกกันว่า RP Test เวลาในการฉายแสงทดสอบแล้วอยู่ที่ 1 วินาที
- เรซินที่ใช้เป็น Phrozen Aqua Grey 8K เช่นเดิม ความละเอียด 50 ไมครอน
- ดูภาพก่อนอ่านข้อสรุปจากผู้เขียน






- จากข้อสรุปคราวที่แล้ว ความเข้มของแสงจาก Saturn 8K ที่มากกว่า Saturn 2 ในการทดสอบทั่วไป พอได้เวลาในการฉายแสงที่เหมาะสม Saturn 2 ทำได้ดีกว่าในเรื่องรายละเอียดขนาดเล็กๆ สังเกตจากพวกเสา 0.3mm ที่ขึ้นได้ดีกว่า (ทั้ง 2 เครื่อง เป็นเครื่องใหม่ ฟิล์มใหม่)
- ส่วนของ Bridge Elegoo Saturn 2 ก็ทำได้ดีกว่า มีการห้อยตัวที่น้อยกว่า ถึงแม้จะฉายแสงแค่ 1 วินาที เท่ากัน
- ผลข้อนี้ทางผู้เขียนก็ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด คาดว่าน่าจะเกิดจากตัวระบบฉายแสงแบบ FCLS ที่เสมือนมีเลนส์ 2 ตัว คือ บริเวณตรงหลอด COB และก่อนที่จะถึงจอมีกระจกฝ้ากระจายแสงให้นวลเนียนอีก
- เทคนนิคนี้แอดเคยเห็นชาวญี่ปุ่นในกลุ่ม Phrozen ทำขายในชื่อ Diffuser ซึ่งทางนั้นก็ระบุว่างานดีขึ้น คิดว่าหลายแบรนด์น่าจะใส่แผ่นตัวนี้ลงไป ถึงแม้ความเข้มจะลดลงหน่อย แต่พอรายละเอียดเล็กๆดีขึ้น

- สำหรับคนที่คิดว่าตัว Array LED ของ Saturn 8K จะเป็นตารางๆ เพราะกระจายแสงไม่ดี ต้องบอกเลยว่ามีการคริเบรตมาดีแล้วครับ บริเวณที่ฉายแสง ไม่ได้เป็นตารางตามแนวเลนส์แบบหลายรุ่นท่คำนวนระยะห่างไม่เหมาะสม
- สรุปสั้นว่าคุณภาพงานของ Saturn 2 ดีกว่าเล็กน้อย
การทดสอบปริ้นงานในชีวิตจริง
- งานทดสอบที่แรกเป็นงานพุทธศิลป์ที่เราทดสอบเป็นประจำ ปริ้นด้วย HD Resin สีส้ม ความละเอียด 20 ไมครอน
- จากผลการปริ้นเรียกว่าหาความต่างไม่เจอจริงๆ ส่วนที่เป็นเส้นรอยดึงบริเวณหน้านั้น ยังไม่ทราบสาเหตุ เพราะเกิดขึ้นตำแหน่งเดียวกันทั้ง 2 เครื่อง แต่ของ Saturn 8K มีเยอะกว่า








- งานปริ้นแปะโรงสี ขนาดเท่าปลายนิ้วหน้ากว้างประมาณ 18 mm (1.8 cm) เรียกว่าประมาณปลายนิ้ว
- งานโมเดลฟิกเกอร์ทั่วไปหน้ากว้าง 30 mm




- มาดูงานเปรียบเทียบความสูง 20 cm กันบ้าง
- งานส่วนด้านบนที่หายไป มาจากตอนล้างชนกับขอบโต๊ะ ไม่ได้เสียจากการปริ้นนะครับ
- ระบบลอกของ Saturn 2 จะดีกว่ารุ่นเดิมสังเกตหลายงานจะไม่มีริ้วๆ ของการดึงขึ้น (เส้นบริเวณด้านหน้า)









- สนใจต้องการดูภาพที่ละเอียดมากกว่าในรีวิวติดต่อหลังไมค์เข้ามาได้ที่ sale@sync-innovation เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้
สรุปเลือก Elegoo Saturn 2 หรือ Saturn 8K ดี ?
- Saturn 8K เป็นตัวเลือกที่ดี ได้งานละเอียดถูกกว่าตัว Saturn 2 หรือ Mighty 8K พอสมควร ได้งานที่ละเอียดไม่แตกต่างกัน
- Saturn 8K ใช้ระบบเก่าทั้งหมด รวมทั้งเมนบอร์ด ยังไม่แน่ใจว่าถ้างานความละเอียดสูงปริ้น 20 ไมครอน สูงเต็มพื้นที่ จะมีปัญหาเรื่อง Memory หมด หรือกระตุกมั้ย
- ด้วยความที่ Saturn 8K เป็นเมนบอร์ดตัวเดิม ใครที่เคยใช้อาจจะเคยเจอปัญหา “backlight always on” ซึ่งมาจากชิ้นส่วนบางตัว ทำให้ต้องเปลี่ยนบอร์ด (อยู่ในการรับประกัน) รุ่นที่พบคือ Saturn S และ Saturn
- Saturn 2 มีแนวโน้มที่จะทนทาน ทุกอย่างเสียยากกว่า เพราะดีไซน์ใหม่หมด ทั้งระบบฉายแสง ระบบระบายความร้อน เมนบอร์ด จุดนี้ยังบอกไม่ได้มาก เพราะใช้มาไม่กี่เดือน
- Saturn 2 คุณภาพของแสงออกมาดีกว่า สม่ำเสมอมากกว่ารุ่นเก่า
- Saturn 2 การซ่อมบำรุงด้านอิเล็กทรอนิกส์ง่ายและสะดวกกว่า
- ถ้างบประมาณไม่เป็นปัญหาแนะนำ Saturn 2
- ถ้าเน้นความคุ้มค่าไป Saturn 8K