Mars 2 Pro ปรับปรุงด้านไหนบ้าง ?
Mars 2 Pro ที่ไม่ได้เปิดตัวอะไร อยู่ๆก็โผล่มาวางจำหน่ายใน Amazon เลย ถือว่าเป็นเครื่องในยุคที่ 2 ของแบรนด์ Elegoo ถัดจากรุ่น Mars และ Mars Pro โดยส่วนหลักที่มีการอัพเกรดขึ้นคือเปลี่ยนจากหน้าจอ RGB เป็นหน้าจอแบบ Monochrome ความละเอียด 2K ตามสมัยนิยม ดังนั้นความเร็วในการพิมพ์ต่อชั้นจะลดลงจาก 7-8 วินาที เหลือ 2-3 วินาที เท่านั้น ในราคาที่ใกล้เคียงกับตัวเดิม ทั้งนี้ตัวที่ได้รีวิวมา อาจจะมีการปรับปรุงอีกในอนาคต



แกะกล่องเทียบกับ Mars Pro
ลักษณะภายนอกของทั้ง 2 เครื่องแทบจะเหมือนกันทั้งหมดทั้งหน้าจอ จุดเสียบ Flash Drive จำนวนพัดลม


ส่วนที่ต่างจุดแรกคือหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยตามสมัยนิยมจาก 5.5 นิ้ว เป็น 6.1 นิ้ว ซึ่งเป็นสเปคพื้นฐานของจอ Monochrome 2020

ฐานพิมพ์ของใหม่ใหญ่ว่าเล็กน้อย สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่อันเก่าพื้นที่พิมพ์เล็กกว่าเล็กน้อย ถ้าพิมพ์เต็มถาดต้องดูดีๆ อย่างให้เกิน 130 mm ด้านยาว ส่วนถาดเรซินเหมือนเดิม


ด้านระบบฉายแสง Mars 2 Pro เลือกกลับไปพัฒนาเลนส์ชิ้นเดียวขนาดใหญ่ (ต่างจากในอดีตที่ใช้กรวยโลหะกระจายแสงอย่างเดียว ไม่มีเลนส์) แทนระบบ array แล้วมีเลนส์แยก ซึ่งทั้ง 2 แบบ ทำให้ดีที่สุดก็ได้ ทำมาไม่ดีก็ได้ ลองดูผลการพิมพ์ตอนท้ายได้ครับ


อีกส่วนที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยคือเวลาที่หลอด LED UV ทำงาน มักจะมีแสงลอดมาตามช่องพัดลม หรือส่วนประกอบที่มีช่องว่าง เข้าตาผู้ใช้ แต่ในกรณีของ Mars 2 Pro นั้นปิดมาสนิทเรียบร้อย ไม่มีแสงลอดออกด้านข้างแม่แต่น้อย ก็ปลอดภัยกับคนที่ทำงานใกล้เครื่องตลอดเวลา
บอร์ดควบคุมเป็นของ Chituboox มีหัวจอหลักคือ ARMZ CPU พร้อมตัวจอ 6 นิ้ว ลอตที่ได้รับมารหัส DXQ608-x04 ซึ่งผลิตและจำหน่ายโดย Chitubox เอง ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาเรื่องความเข้ากันได้ระหว่างจอและบอร์ดควบคุม



การตั้งค่าใน Chitubox ของ Mars 2 Pro
ขั้นตอนอื่นๆ เรื่องเช็คเครื่อง ตั้งระนาบฐาน ขอข้ามมาเลย สามารถอ่านได้ในรีวิวเครื่องรุ่นเก่าๆ เพราะเหมือนกันหมด
โดยหลังจาก Import เครื่อง Mars 2 Pro เข้ามาแล้วจะมีการตั้งค่าในส่วนของ Machine ตามรูป สังเกตว่าในส่วนของ Offset พื้นที่การพิมพ์ใส่มาให้เรียบร้อย คาดว่าน่าจะ calibrate ความเข้มของแสงมาดีแล้ว

ในส่วนของโปรไฟล์เรซินนั้นค่ามาตรฐานของการฉายแสงอยู่ที่ 2.5 วินาที ที่ความละเอียด 50 ไมครอน และชั้นฐานอยู่ที่ 35 วินาที

ส่วนของ Advance Setting ใส่ค่าการลบรอยหยัก (Anti Aliasing, AA) อยู่ที่ 4X ค่า Image Blur อยู่ที่ 2 ปกติเครื่องอื่นๆจะปิดค่านี้ไว้ รีวิวนี้ไม่ได้ใช้ค่านี้เป็นหลัก

โดยเราได้เอาค่าที่ใช้กับ Sonic Mini 4K ที่เป็นจอ Monochrome 6 นิ้ว เหมือนกันมาใช้งาน ดังนั้นผลการปริ้นใช้การตั้งค่านี้แทนค่าจากโรงงาน ส่วนงานไหนที่ใช้ค่าเดิมจากโรงงานจะมีระบุไว้

ผลการพิมพ์
ตัวอย่างานแรกเป็นไฟล์ทดสอบที่อยู่ใน Flash Drive ที่มาพร้อมเครื่อง ดังนั้นเป็นการตั้งค่าตามค่ามาตรฐานใน Chitubox ผลที่ได้ก็ปริ้นสำเร็จด้วยดี
อีกงานที่ทดลองพิมพ์เต็มพื้นที่ โดยใช้ค่าที่ตั้งจากโรงงาน สังเกตว่าบริเวณที่เป็นฐาน หรือพื้นเรียบจะมีรอยย่น เหมือนแต่ละชั้นไม่ติดกันอยู่ ดังนั้นหากปริ้นงานใหญ่ๆ น่าจะมีปัญหาเรื่องแรงดึงที่มากขึ้น ดังนั้นค่าโรงงานเหมาะกับการปริ้นงานชิ้นเล็กๆ ไม่มี Flat Area เยอะ



อีกงานหนึ่งที่นิยมเอาไปใช้กันมากในปัจจุบันคือพิมพ์จิวเวรี ที่ทดลองพิมพ์มากกว่า 100 แบบ เสียไม่ถึง 5 วง จากทั้งหมด โดยใช้โปรไฟล์ของทางเราเอง ผลงานที่ได้ลองดูด้วยตัวเองครับ งานพิมพ์ที่ดีต้องมาจากเครื่อง+การตั้งค่าที่เหมาะสม


สรุป
เหมาะกับคนที่ใช้ Elegoo อยู่แล้ว แล้วอยากใช้ System เดิม ทั้งถาดพิมพ์ ฐานพิมพ์ และต้องการความรวดเร็วในการทำงานที่มากขึ้น ส่วนใครที่กำลังหาเครื่องใหม่ในท้องตลาด ตัวนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีทั้ง คุณภาพและความทนทาน
- Elegoo เป็นแบรนด์ที่มีชื่อใน Amazon ด้านบริการหลังการขาย
- เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่ทำให้ราคาตลาดของเครื่อง LCD 3D Printer ถูกลง แข่งขันกันมากขึ้น
- Elegoo ใช้ชิ้นส่วนดี ถึงแม้ทุกเครื่องจะหน้าตาเหมือนกันหมดกับแบรนด์อื่นๆ แต่คุณภาพของอะไหล่ที่เลือกใช้ รวมถึงบริการหลังการขายเป็นที่ยอมรับ ในวงกว้าง
- รุ่น Elegoo Mars 2 Pro มีการระบายความร้อนที่ดีกว่า Phrozen Sonic Mini 4K