บทบาทของผู้พัฒนา Software
สำหรับเทคโนโลยี 3D Printing บริษัทด้าน Software ได้พัฒนามาพร้อมๆกัน ตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว จากปกติที่มีแค่โปรแกรมสำหรับสร้างแบบจำลอง 3 มิติ เพื่อใช้งานเเพียงอย่างเดียว ก็เริ่มมีการพัฒนาและขยายขอบเขต จนเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมด้านการจำลอง หรือ Simulation การใช้งานจริง การช่วยบริหารการจัดการกระบวนการผลิต ซึ่งล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นบทความนี้จะแนะนำ บริษัทหรือชื่อ Software ที่เกี่ยวกับข้องกับเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติ ให้เป็นข้อมูลกัน โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อยได้ แก่
- การสร้างแบบจำลองและวิเคราะห์ทางวิศวกรรม
- การเตรียมข้อมูลการพิมพ์ และบริหารการจัดการ
- ความปลอดภัย
Design & Simulation
สำหรับโปรแกรมสร้างแบบจำลอง 3 มิติ อาจจะดูเป็นโปรแกรมทั่วไปที่ใช้งานในปัจจุบัน แต่สำหรับโปรแรกมวิเคราะห์ทางวิศวกรรม หรือ Simulation ช่วยให้นักออกแบบสามารถที่จะจำลองการใช้งาน ของชิ้นงานหรือผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบขึ้นว่าเหมาะสมกับการใช้งานในสภาวะแวดล้อมจริงในระดับไหน โดยเป็นศาสตร์ขั้นสูงที่ยิ่งผู้ใช้มีความรู้และกำหนดตัวแปรได้ถูกต้องตามความเป็นจริง จะช่วยให้การ Simulation มีความแม่นยำสูงมาก
Dassault Systèmes
ผู้พัฒนาซอฟแวร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกรายหนึ่ง มี Ecosystem ที่ครบครันสำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสมัยใหม่และ 3D Printing นั้น Dassault ได้นำเสนอโซลูชั่น 3D Experience Platform ที่ครับครันทุกขั้นตอน พร้อมผู้เชียวชาญเฉพาะด้านให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า



- ในส่วนของ Platform 3D Printing หรือ Make นั้น ทางบริษัทได้ร่วมมือการผู้ให้บริการ 3D Printing service ทั่วโลก เพื่อให้บริการ
- พาทเนอร์หลักของบริษัทสำหรับการผลิต เป็นกลุ่มแบรนด์ชั้นนำ เช่น Desktop Metal, 3D System, Prodway
Autodesk
อีกหนึ่งบริษัทด้านซอฟแวร์รายใหญ่ของโลก มีโซลูชั่นครบวงจร ทั้งงานด้านวิศวกรรม และสาขาอื่นๆ สำหรับ 3D Printing นั้น Autodesk เคยจำหน่ายเครื่องเรซิน 3D Printer ของตัวเองในชื่อ Autodesk Amber (ปัจจุบัน 2020 ไม่มีจำหน่ายแล้ว)
โดยส่วนของการสร้าง 3D Model นั้น แบ่งเป็น
- เกมส์ หนัง TV VFX
- อุตสาหกรรม ออกแบบผลิตภัณฑ์
- จัดการไฟล์และ 3D Print โดยเฉพาะ



สำหรับการจัดการ 3D Model โปรแกรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Autodesk Netfabb ที่มีหลายบริษัทนำเอาไปใช้กับเครื่องของตัวเอง ทั้งเครื่อง Desktop จนไปถึงระดับอุตสาหกรรมหลายสิบล้านบาท ฟีเจอร์รวมคือ
- Build preparation จัดเตรียมไฟล์ วางชิ้นงาน แปลงนามสกุล
- Design optimization แก้ไข ปรับปรุง สร้าง support ชดเชยความคลาดเคลื่อน
- Simulation การพิมพ์ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี Powder bed เพื่อดูผลจากการพิมพ์ และนับไปแก้ไขการออกแบบผลิตถัณฑ์ การวางชิ้น การสร้าง Support

Start ups ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เทคโนโลยี 3D Printing เริ่มเข้ามามีบทความในภาคอุตสาหกรรมการผลิต ไม่ใช่เฉพาะการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ แต่รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ใช้จริง ที่ต้องใช้แนวคิดใหม่ ทั้งเรื่อง รูปร่าง วัสดุ กระบวนการผลิต
เป็นบริษัทที่พัฒนาซอฟแวร์ด้าน simulation ทางวิศวกรรมอยู่แล้ว โดยในส่วนของงาน 3D Printing หรือ Additive Manufacturing จะใช้ชื่อว่า FLOW-3D AM เน้นไปที่เครื่องแบบบ laser powder bed fusion (L-PBF) Binder jetting และ Directed Energy Deposition (DED) โดยเฉพาะ เริ่มต้นใช้ในการเชื่อม (Laser Welding) แต่ปัจจุบันสามารถจำลองพฤติกรรมของผงขณะพิมพ์ขึ้นรูปได้แล้ว ส่วนใหญ่โปรแกรมจะอยู่ในส่วนของภาคการศึกษา งานวิจัยระดับสูง
Pre Processing & Slicing
เป็นบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมด้านการเตรียมไฟล์ก่อนการพิมพ์โดยเฉพาะ บางส่วนก็อยู่ในกลุ่มของบริษัทที่ได้กล่าวมาแล้ว เช่น Netfabb หรือ Topology
Materialise
นอกจากเป็นผู้นำด้าน Online Printing Service แล้วทาง Materialise ยังมีโปรแกรมชื่อ Magic 3D ที่ทำหน้าที่ครบวงจร ตั้งแต่เตรียม ตรวจสอบไฟล์ ขั้นตอนการ slice และมอนิเตอร์การใช้งานเครื่องพิมพ์ ส่วนที่น่าสนใจคงเป็น 3-Matic ที่ช่วยให้การออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตโดยใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ได้อเหมาะสมมากขึ้น

Simplify3D
เป็นบริษัทที่พัฒนา Slicer สำหรับเครื่อง FDM 3D Printer โดยเฉพาะ โดยเน้นการทำงานที่ง่าย รวดเร็ว ฟังก์ชั่นครบครัน ซึ่งสมัยนั้นล้ำหน้าผู้พัฒนารายอื่นไปพอสมควร ปัจจุบัน (2020) แทบไม่มีการอัพเดดแล้ว อย่างไรก็ตาม Simplify3D ยังเป็นโปรแกรม Slicer ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนที่ต้องการจัดการงานพิมพ์จำนวนมาก ขนาดใหญ่ จะเห็นประสิทธิภาพของการทำงานที่ลื่นไหลมากกว่าโปรแกรมอื่น

Cura
Cura พัฒนาโดย Ultimaker ผู้ผลิตเครื่อง FDM 3D Printer รายใหญ่ของโลก โดยเป็นโปรแกรมที่ Open Source ทำให้มีผู้พัฒนาหลายรายเอาพัฒนาปรับปรุงต่อให้กลายเป็นของตัวเอง เช่น Lulzbot Wanhao 3D Gence Qidi เป็นต้น เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่มีการพัฒนาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

Prusa Slicer
พัฒนาโดย Prusa มีพื้นฐานมาจากโปรแกรม Slic3r ปัจจุบันรองรับทั้งเครื่อง FDM และ SLA 3D Printer มีฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานครับครัน

Security
ในส่วนของโปรแกรมที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยและลิขสิทธิ์นั้น ถือเป็นเรื่องใหม่ของวงการ 3D Printing โดยเฉพาะในไทย ซึ่งการอ้างสิทธิ์ หรือระบุของเขตความเป็นเจ้าของ ข้อมูล Digital นั้นยังคลุมเครือ รวมถึงความปลอดภัยในการรับ-ส่งข้อมูล
ดูแลเรื่องความปลอดภัยโดยมีการเข้ารหัส (encrypt) ข้อมูลทาง Digital ก่อนส่งผ่านไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง ภาพรวมคือระบบการผลิตของบริษัทที่ใช้งาน ต้องผ่าน Identify3D ก่อน ถึงจะส่งข้อมูลไปยังภายนอกได้ ซึ่งนอกจากจะติดตามได้แล้วว่าส่งไปที่ไหน ยังสามารถตามได้อีกว่าใครเป็นคนถอดรหัส (Decrypt)
- Create a secure encrypted container or Digital Supply Item (DSI) for design and manufacturing files
Digitally sign design and manufacturing files to protect integrity - Assign business rules within designs such as quantities, timing, authorized manufacturer
- Assign manufacturing rules for machine type, build parameters, material choice, and production workflows
- Works as standalone or integrates with CAD/CAM, PLM systems and digital part platforms

เป็นระบบที่ผนวกเข้ากับระบบการผลิตทั้งหมด เพื่อดูแลข้อมูลความปลอดภัย ทั้งกระบวนการผลิต วัตถุดิบ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ทั้งกระบวนการ

อีกบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมเพื่อติดตามและรักษาข้อมูลทั้งระบบการผลิต ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตเครื่อง 3D Printer ชั้นนำหลายราย เพื่อนำเสนอให้กับลูกค้า
