3D Printing Service Online มีเพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการพิมพ์งานตามที่ต้องการ ด้วยวัสดุที่สามารถเลือกได้ตามวัตถุประสงค์ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องและวัสดุหลายชนิดเป็นของตนเอง ซึ่งบริการการพิมพ์ 3 มิติ สามารถเทียบได้กับบริการการผลิตแบบไฮบริดตามการนำไปใช้งาน โดยแพลตฟอร์มบางแห่งใช้วิธีการผลิตแบบพิเศษ ก็คือ “Additive Manufacturing” ด้วยกระบวนการต่างๆ เช่น SLS, SLM, SLA เป็นต้น เหมาะกับการพิมพ์รายการเฉพาะในปริมาณน้อยไปจนถึงปริมาณมาก เช่น Dinosaurs, Baby Groot ขึ้นรูปด้วยวัสดุพลาสติก เพื่อใช้เป็นงานต้นแบบ เลือกใช้บริการการพิมพ์ 3 มิติด้วยเทคนิค FDM ซึ่งมีค่าบริการถูกและเพียงพอต่อมาใช้งาน เป็นต้น
บริการพิมพ์ 3 มิติ หรือ 3D Printing Service Online มีหลากหลายเทคโนโลยีตามความต้องการทั้ง FDM, SLA, SLS, Polyjet จนไปถึงการผลิตจำนวนมากด้วย Injection Molding มาดูกันว่ามีบริษัทไหนบ้างที่เปิดบริการ 3D Printing Service Online (อ้างอิงจาก 3D Model ขนาดตามภาพด้านล่าง)



1. FDM
Fused Deposition Modeling (FDM) หรืออาจเรียกว่า Fused Filament Fabrication (FFF) เป็นเทคโนโลยีการขึ้นรูปแบบระบบฉีดเส้นวัสดุ (Extrusion) ซึ่งทั้ง FDM และ FFF มีหลักการทำงานเหมือนกันทุกอย่าง แต่ที่เรียกต่างกันนั้น เนื่องจากผู้ผลิตได้เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ที่จะตามมาในอนาคตกับเจ้าของสิทธิบัตร แม้ว่าสิทธิบัตรที่จดไว้นั้นจะหมดอายุลงแล้วก็ตาม
ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ระบบ FDM มีราคาตั้งแต่หลักพันบาทไปจนถึงหลักแสนบาท ขั้นอยู่กับขนาดพื้นที่การพิมพ์และประสิทธิภาพของเครื่องนั้นๆ ชิ้นงานที่ออกมาก็จะได้คุณภาพที่แตกต่างกันไป ทำให้หลายคนเลือกที่จะใช้บริการ 3D Printing Service Online เพราะสะดวก รวดเร็ว มีเพียงไฟล์ที่ต้องพิมพ์เท่านั้น ก็สามารถรอรับชิ้นงานได้ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งทางผู้ให้บริการก็มีหลายแบรนด์ หลากหลายประเทศ ราคาก็จะแตกต่างกันไปเช่นกัน



2. SLA
Stereolithography ตัวย่อคือ SLA ใช้วัสดุที่เป็นเรซินของเหลวในการขึ้นรูป ซึ่งระบบเรซิน หรือ ระบบถาดเรซิน (Light polymerized) เป็นระบบที่ใช้การฉายแสงไปที่ตัววัสดุพอลิเมอร์ไวแสง (Photo Resin) หลายคนอาจจะคุ้นกับคำว่า “Photopolymer” โดย 3D Printer จะเคลื่อนที่ขึ้นลงในแนวแกน Z ดังนั้นเรซินถูกฉายแสงจะแข็งตัวเฉพาะจุดที่โดนแสงทีละชั้น โดยการเคลื่อนฐานพิมพ์ลงไปทีละชั้น เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนชิ้นงานเกิดรูปร่างขึ้นมาครบตามที่กำหนดไว้ จนเกินเป็นชิ้นงานวัตถุที่สมบูรณ์
สำหรับเครื่อง Resin 3D Printer มีหลากหลายแบรนด์ทั้งในยุโรปและเอเชีย ซึ่งราคานั้นก็มีตั้งแต่หลัก 10,000 ถึง 1,000,000 บาท ดังนั้นผู้ประกอบการหลายแห่งจึงผันตัวเองมาให้บริการ 3D Printing Service Online เพื่อครอบคลุมต่อความต้องการของผู้ใช้ได้ง่ายมากขึ้น แน่นอนว่าราคานั้นย่อมแตกต่างกันไปตามราคาเครื่องพิมพิ์และราคาของวัสดุ


3. SLS
Selective Laser Sintering (SLS) เป็นกระบวนการที่ใช้ระบบผงวัสดุ (Powder Bed หรือ Powder Fed) ได้แก่ เทอร์โมพลาสติก, ผงโลหะ, ผงเซรามิก เป็นต้น หลักการการพิมพ์แบบ SLS ที่สำคัญคือการหลอมผงวัสดุ ใช้ความร้อนจากการฉายแสงเพื่อหลอมละลายทำให้ผงวัสดุหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เป็นการเผาผนึกวัตถุดิบที่ใช้ด้วยแสงเลเซอร์ ทำให้สามารถใช้กับวัสดุที่มีความแข็งแรงมากๆ ในการนำการขึ้นรูปได้ เช่น Nylon, Polyamide, Polystyrene, โลหะ, เซรามิก เป็นต้น เครื่องจะใช้เลเซอร์วาดรูปแบบขึ้นทีละชั้นและพ่นผงเหล่านี้ลงไปหลอมละลายกระทั่งกลายเป็นชิ้นงาน
3D Printing Service Online เหมาะกับการเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้ที่ต้องการขึ้นชิ้นงานด้วยกระบวนการ SLS เนื่องจากราคาเครื่องที่สูงมาก จึงนิยมใช้ในภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนมาก ฉะนั้นราคาในการให้บริการแก่บุคคลทั่วไปจึงมีราคาค่อนข้างสูง


4. DMLS
Direct Metal Laser Sintering ชื่อย่อก็คือ DMLS นิยมใช้กับวัสดุประเภทโลหะผสม ซึ่งกระบวนการพิมพ์ 3 มิติเชิงอุตสาหกรรมที่สร้างต้นแบบโลหะ เพื่อการใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ และการผลิตชิ้นส่วนสามารถทำได้ในระยะเวลา 7 วันหรือน้อยกว่านั้น โดยโลหะหลากหลายชนิดผลิตเป็นชิ้นส่วนสำหรับการใช้งานของผู้ใช้ท้ายสุด หรือผู้บริโภคขั้นสุดท้าย (end-use)
โดยทั่วไปแล้วราคาสำหรับเครื่องพิมพ์ Metal 3D Printer ระดับมืออาชีพมีตั้งแต่ประมาณ $ 50,000 ถึง $ 1,000,000 นั่นเป็นช่วงราคาที่กว้างมากซึ่งจำนวนเงินสุดท้ายที่ต้องจ่ายนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องจักรและประสิทธิภาพการทำงาน จึงทำให้ผู้บริโภคเลือกใช้แบบ 3D Printing Service Online เนื่องจากไม่ต้องแบกรับภาระค่าเครื่องจักร วัสดุ และการดูแลรักษา อีกทั้งยังได้ชิ้นส่วนทันเวลา หรือควบคุมเวลาที่ต้องการได้นั่นเอง

5. SLM
Selective Laser Melting (SLM) เป็นประเภทของการผลิตแบบสารเติมแต่งโลหะ หรือ metal additive manufacturing ใช้กระบวนการการเผาผนึกโลหะด้วยเลเซอร์โดยตรง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยี SLM และ DMLS ทั้งสองแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยในเรื่องของชนิดวัสดุ ซึ่งกระบวนการ SLM นั้นจะหลอมโลหะบริสุทธิ์ (pure metals) เช่น ไทเทเนียม, โครเมียม, เหล็กกล้าไร้สนิม (stainless steel), อลูมิเนียม เป็นต้น ในขณะที่ DMLS จะหลอมโลหะผสม (metal alloys)
SLM เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่น่าสนใจในปัจจุบัน และมีการใช้ทั้งในการสร้างต้นแบบ การผลิตจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และช่วงของวัสดุโลหะที่ใช้มีอยู่ค่อนข้างกว้างขวาง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ยังมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตแบบดั้งเดิม จึงทำให้ 3D Printing Service Online เหมาะกับผู้ที่ต้องการชิ้นส่วนเฉพาะ, spare part และจำนวนน้อย
